Search

เปิดบันทึก 69 ปีฮีโร่โอลิมปิกไทย โร้ด ทู โตเกียว - สยามกีฬา

เปิดบันทึก 69 ปีฮีโร่โอลิมปิกไทย โร้ด ทู โตเกียว

    นับถอยหลังเหลืออีกไม่กี่วันมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นจะเปิดฉากอย่างเป็นทางการ นักกีฬาจากทั่วโลกต่างเฝ้ารอคอยมาอย่างยาวนาน ทั้งนี้เกมการแข่งขันต้องเลื่อนจากปี 2563 เนื่องจากการการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19    

    แม้ว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคจะยังไม่คลี่คลาย บวกกับกระแสคัดค้านของชาวญี่ปุ่นบางส่วนที่กังวลเกรงว่าการระบาดจะกระจายรุนแรงกว่าเดิมจากการมาของชาวต่างชาติ อย่างไรก็ตามล่าสุดทั้งฝ่ายจัดการแข่งขัน, ไอโอซี และรัฐบาลญี่ปุ่น คงยืนยันว่าการแข่งขันภายใต้มาตรการเฝ้าระวังป้องกันอย่างเข้มงวด "โตเกียว 2020" จะมีขึ้นตามกำหนดการในปีนี้ระหว่างวันที่ 23 ก.ค.- 8 ส.ค.2564 

     และวันนี้ก่อนมหกรรมกีฬาโอลิมปิก2020จะเปิดฉากอย่างเป็นทางการ สยามกีฬารายวันขอพาย้อนเวลาไปดูเรื่องราวและความสำเร็จของนักกีฬาไทยตลอด 69 ปี นับตั้งแต่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ของมวลมนุษยชาตินั้น ทัพนักกีฬาจากสยามประเทศเป็นอย่างไรบ้าง 

เปิดบันทึก 69 ปีฮีโร่โอลิมปิกไทย โร้ด ทู โตเกียว

     เป็นเวลาถึง 69 ปีแล้ว ที่ประเทศไทยได้ส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ครั้งแรกนั้นในครั้งที่ 15 เมื่อปีพ.ศ.2495 ที่กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ กับครั้งแรกแม้ไม่มีเหรียญรางวัลติดมือกลับบ้าน แต่ก็นับเป็นความภาคภูมิใจที่มีโอกาสได้ร่วมชิงชัยในมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งในช่วงเวลา 6 ครั้งกับกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ทัพนักกีฬาจากสยามเมืองยิ้มไม่ประสบความสำเร็จกับเหรียญรางวัล  

    จนกระทั่งกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 21 ที่เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา ในปี 2519 "เหรียญประวัติศาสตร์" ของวงการกีฬาไทยในโอลิมปิกเกมส์ก็เกิดขึ้น  จาก"พเยาว์ พูนธรัตน์" นักชกจากอ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธุ์ ที่ได้ "เหรียญทองแดง" ในรุ่นไลท์ฟลายเวท หลังจากเอาชนะ ยียอยี เยโด้ จากฮังการี ในรอบ 8 คนสุดท้าย แฟนกีฬาชาวไทยได้ชื่นชมฉลองความสำเร็จหลังรอคอยมาถึง 24 ปี  

     วีรบุรุษคนที่ 2 คือ "ทวี อัมพรมหา" ยอดกำปั้นจากเมืองระยอง ที่ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศมวยสากลรุ่นไลต์เวลเตอร์เวต ในโอลิมปิก ที่ลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 2527 ซึ่งรอบชิงชนะเลิศมีขึ้นในวันที่ 12 สิงหาคม ทวี อัมพรมหา หรือ "ขาวผ่อง สิทธิชูชัย" ที่รู้จักกันในชื่อมวยไทยสู้เต็มที่ก่อนปราชัยให้กับ เจอร์รี่ เพลส์ นักชกเจ้าภาพ ที่ประสบการณ์โชกโชน ทำให้นักชกไทยพ่ายไป 0-5 คะแนน  ทำให้กำปั้นจากระยองคว้า "เหรียญเงิน" เป็นเหรียญประวัติศาสตร์ เป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่คว้ามาครองได้สำเร็จ 

     นับจากนั้นเป็นต้นมานักกีฬาไทยก็คว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกมาคล้องคอกลับมาตุภูมิให้ประชาชนชาวไทยได้ฉลองทุกครั้ง ซึ่งความสำเร็จของทัพนักกีฬาไทยในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งต่อๆ มากขึ้นต่อเนื่องให้แฟนกีฬาชาวไทยได้มีความสุข ทั้งจากเหรียญทองแดง, เหรียญเงิน และ เหรียญทอง และตลอด 69 ปีที่ผ่านมา "ฮีโร่" ของชาวไทยมีใครบ้างติดตามกัน 

เปิดบันทึก 69 ปีฮีโร่โอลิมปิกไทย โร้ด ทู โตเกียว

    1.พเยาว์ พูนธรัตน์ (มวยสากลสมัครเล่น)  มีชื่อเล่นว่า "จ้อน" เกิดวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2499 ที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จบการศึกษา ปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมศาสตร์ (โยธา) สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล เป็นนักชกผู้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการกีฬาไทยในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 
 
    โดย "พเยาว์" คว้าเหรียญทองแดงแรก ในการแข่งขันโอลิมปิก ที่เมืองมอลทรีออล ประเทศแคนาดา พ.ศ.2519 และบนเส้นทางมวยอาชีพได้เป็นแชมป์โลกคนที่ 7 ของไทยด้วย และปีพ.ศ. 2544 ได้เป็นผู้แทนในเขต 3 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ที่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บ้านเกิด  กระทั่งในปี 2545 นับเป็นข่าวเศร้าของวงการกีฬาไทยและวงการมวยสากลของไทย เมื่อ ฮีโร่โอลิมปิกได้ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ หรือ ALS ก่อนเสียชีวิตอย่างสงบเมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2549 ที่โรงพยาบาลศิริราช 

เปิดบันทึก 69 ปีฮีโร่โอลิมปิกไทย โร้ด ทู โตเกียว

 
    2.ทวี อัมพรมหา (มวยสากลสมัครเล่น)   เกิดวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2502 ที่บ้านแง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง คุณพ่อเสียขีวิตตั้งแต่ยังเขายังเล็กๆ ก่อนที่จะผันตัวเองมาชกมวยสากลสมัครเล่นเป็นนักมวยไทยฝีมือจัดจ้านในค่ายสิทธิชูชัยของ ครูชูชีพ ไชยมงคล และ เป็นแชมป์มวยไทยรุ่นฟลายเวท ของเวทีราชดำเนิน, เป็นแชมป์มวยไทยรุ่นเฟอร์เธอร์เวท ของเวทีลุมพินี  เมื่อหันมาชกมวยสากลสมัครเล่นก็เป็นนักกีฬาไทยคนที่ 2 ที่ได้เหรียญรางวัลโอลิมปิกเกมส์ แต่เป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่ได้เหรียญเงิน โดยได้ในรุ่นไลท์เวทเตอร์เวท จากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 23 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 2527 โดยรอบชิงชนะเลิศวันที่ 12 ส.ค.ปราชัยให้กับ เจอร์รี่ เพลส์ นักชกเจ้าภาพสหรัฐฯ 0-5 คะแนน  
เปิดบันทึก 69 ปีฮีโร่โอลิมปิกไทย โร้ด ทู โตเกียว

 
    3.ผจญ มูลสัน (มวยสากลสมัครเล่น)  เป็นนักกีฬาไทยคนที่ 3 ที่กระชากเหรียญรางวัลโอลิมปิกมาคล้องคอได้สำเร็จ และเป็นเหรียญทองแดงที่ 2 ของไทยต่อจาก พเยาว์ พูลธรัตน์ โดย ผจญ มูลสัน เกิดวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2512 ภูมิลำเนาเป็นชาวจังหวัดนครสวรรค์ ถือเป็นนักมวยสู้ชีวิตคนหนึ่งชกมวยเลี้ยงชีพมาตั้งแต่วัยเยาว์  และในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 24 ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ในปี 2531 นั้น ผจญ  สร้างประวัติศาสตร์ให้กับตนเองด้วยการเป็นนักกีฬาไทยคนที่ 3 ที่คว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกเกมส์ แม้ว่าจะไม่ใช่นักชกที่ถูกคาดหมาย แต่นักชกจากเมืองปากน้ำโพก็ก้าวไปถึงเหรียญรางวัลที่ยิ่งใหญ่ได้สำเร็จ เหรียญทองแดง ในรุ่นแบนตั้มเวต  
 
เปิดบันทึก 69 ปีฮีโร่โอลิมปิกไทย โร้ด ทู โตเกียว

    4.อาคม เฉ่งไล่ (มวยสากลสมัครเล่น) 
 
    จากนักมวยไทยชื่อดังขึ้นเวทีตั้งแต่อายุ 12 ขวบ เขาเกิดวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2513  เป็นชาวจังหวัดตรัง และเป็นบุตรของนายแวก และนางชีพ เฉ่งไล่ จบจากการศึกษา สภาบันราชภัฎจันทรเกษม โดย อาคม เริ่มชกมวยไทย โดยใช้ชื่อ "อิสระ ศักดิ์กรีรินทร์" และได้เป็นแชมป์ไลท์เวท 135 ปอนด์ ของเวทีลุมพินี ต่อมาจึงหันมาชกมวยสากลสมัครเล่น โดยได้เหรียญทองกีฬาแห่งชาติ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา   จากนั้นผ่านคัดตัวเป็นนักมวยทีมชาติไทยไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน พ.ศ.2535 และคว้า เหรียญทองแดง รุ่นเวลเตอร์เวต กลับมา  
เปิดบันทึก 69 ปีฮีโร่โอลิมปิกไทย โร้ด ทู โตเกียว

 
    5.สมรักษ์ คำสิงห์ (มวยสากลสมัครเล่น) นักชกเหรียญทองประวัติศาสตร์ เกิด วันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2516 เป็นชาวจังหวัดขอนแก่น เป็นบุตรของนายสุรัตน์ และนางประยูร คำสิงห์ นับเป็นนักมวยฝีมือดีหาตัวจับยากคนหนึ่ง สมรักษ์ ขึ้นชกมวยไทยในชื่อ พิมพ์อรัญเล็ก ศิษย์อรัญ ต่อมาหันมาเอาดีทางมวยสากลสมัครเล่น และติดทีมชาติไทยไปร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์หนแรกในปี 2535 ในโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่บาร์เซโลน่า ประเทศสเปน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ตกรอบแรก  

    อย่างไรก็ตามอีก 4 ปีต่อมา สมรักษ์ ผ่านการคัดเลือกไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ได้อีกในครั้งที่ 26 ที่แอตแลนต้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 2539  ยอดนักชกจากเมืองหมอแคน ได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่คว้า "เหรียญทอง" ได้สำเร็จ 

    "สมรักษ์ คำสิงห์" ได้จารึกไว้บนหน้าประวัติศาสตร์ของวงการกีฬาไทย เป็นนักกีฬาคนแรกที่คว้าเหรียญทอง หลังจากรอคอยมานานถึง 44 ปี โดยวันที่ 4 สิงหาคม 2539 ถือเป็นวันที่วงการกีฬาไทยต้องจำจดเมื่อเอาชนะ เทดา ฟิม โทโดรอฟ จากบัลแกเรีย 8-5 ในรอบชิงชนะเลิศ ในรุ่นเฟเธอร์เวต  

    จากนั้น สมรักษ์ ยังสามารถผ่านการคัดเลือกไปร่วมแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ได้อีกถึง 2 ครั้ง คือ โอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่นครซิดนี่ย์ ประเทศออสเตรเลีย ในปี 2543 แต่ตกรอบสาม และต่อมาในโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ซึ่งตกรอบแรกและทำให้ สมรักษ์ แขวนนวมโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ สมรักษ์ คำสิงห์ ถือเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่เข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ถึง 4 ครั้งติดต่อกัน 
 

เปิดบันทึก 69 ปีฮีโร่โอลิมปิกไทย โร้ด ทู โตเกียว

    6.วิชัย ราชานนท์ (มวยสากลสมัครเล่น)  เกิด วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ.2511 เป็นชาวจังหวัดขอนแก่น เป็นบุตรของนายเคลื่อน และ นางลมัย ขัดโพธิ์ จบการศึกษา ปริญญาตรี สถาบันราชภัฏ จันทรเกษม ติดทีมชาติไทยครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2530 กับโอลิมปิกเกมส์นั้น วิชัย ต้องเพียรพยายามอยู่หลายครั้งทีเดียวโดยครั้งแรกในโอลิมปิกที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ในปี พ.ศ. 2531 ตกรอบแรก ครั้งต่อมาที่บาร์เซโลน่า ประเทศสเปน ในปี พ.ศ. 2535 ซึ่ง วิชัย โชคร้ายศีรษะแตก ก่อนโดนจับแพ้ไปทั้ง ๆ ที่ ทำคะแนนเหนือนักมวยเยอรมัน   กระทั่งกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 26 ที่เมืองแอตแลนตา สหรัฐอเมริกา ปี พ.ศ. 2539 วิชัย ก็ประสบความสำเร็จคว้า เหรียญทองแดง ในรุ่นแบนตั้มเวต ซึ่งต้องเพียรพยายามมาถึงสามโอลิมปิกเลยทีเดียว  
 
อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
เพิ่มเพื่อน

Adblock test (Why?)

อ่านบทความและอื่น ๆ ( เปิดบันทึก 69 ปีฮีโร่โอลิมปิกไทย โร้ด ทู โตเกียว - สยามกีฬา )
https://ift.tt/3fTmf7U
กีฬา

Bagikan Berita Ini

0 Response to "เปิดบันทึก 69 ปีฮีโร่โอลิมปิกไทย โร้ด ทู โตเกียว - สยามกีฬา"

Post a Comment

Powered by Blogger.