นายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศที่ประเทศจีน รายงานว่า แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบในหลายด้าน แต่ยังเป็นจุดสำคัญที่ทำให้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น โดยชาวจีนมีพฤติกรรมการออกกำลังกายที่เปลี่ยนไป ซึ่งนิยมหันมาออกกำลังกายที่บ้านผ่านสื่อออนไลน์และแอพพลิเคชั่นแทนการเข้าฟิตเนสและการจ้างเทรนด์เนอร์ อีกทั้งจีนมีการกำหนดยุทธศาสตร์ “Healthy China 2030” เพื่อส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และผู้ใหญ่ มีการเล่นกีฬามากขึ้น ส่งผลให้ตลาดเครี่องออกกำลังกายและเครื่องแต่งกายกีฬาจีนเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงาน อายุ 23-30ปี ที่นิยมออกกำลังกายประเภทโยคะและฟุตบอล ปั่นจักรยาน และปีนเขา เป็นต้น
ทั้งนี้ ในปี 2563 จีนมีมูลค่าตลาดเครื่องแต่งกายชุดกีฬาสูงถึง 3.15 แสนล้านหยวน หรือประมาณ 1.57 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 10 ปีที่ผ่าน มากว่าสองเท่าตัว ซึ่งเครื่องแต่งกายชุดกีฬาที่มีมูลค่าสูง 3 ลำดับแรก คือ เครื่องแต่งกายแนวสปอร์ต เครื่องแต่งกายกีฬาแบบผ้ายืด และเครื่องแต่งกายกีฬากลางแจ้ง ขณะที่รองเท้ากีฬา ได้แก่ รองเท้าสไตล์สปอร์ต รองเท้ากีฬาทั่วไป และรองเท้าสำหรับกิจกรรม Outdoor คาดว่าตลาดเครื่องแต่งกายชุดกีฬา เครื่องกีฬาและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งแอพพลิเคชั่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ และสื่อออนไลน์ จะยังมีแนวโน้มที่สดใสสามารถเติบโตไปได้ต่อเนื่องอย่างสัมพันธ์กัน
“ ถือเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไทยจะพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพเพื่อขยายตลาดกลุ่มดังกล่าวไปในประเทศจีน อีกทั้งอาหารเพื่อสุขภาพและอาหารเสริมก็ยังเป็นกลุ่มสำคัญที่น่าสนใจ โดยผู้ประกอบการต้องคำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการเป็นหลัก เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปหลังจากวิกฤตโควิด-19 และสามารถครองใจคนรักสุขภาพในจีน “นายเอกฉัตร กล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่
https://ift.tt/3kds03r
กีฬา
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ชาวจีนใส่ใจสุขภาพ ดันตลาดชุดกีฬาโต2เท่าใน10 ปีทะลุ 1.5 ล้านล้าน - มติชน"
Post a Comment