แนะนำอุปกรณ์ไอทีที่ควรมี! เมื่อต้องเดินทางสงกรานต์ - เดลินิวส์ออนไลน์

“เทศกาลสงกรานต์ปี 65” มีวันหยุดยาวหลายคนมีแพลนเดินทางกลับต่างจังหวัดไปเยี่ยมญาติพี่น้อง หรือบางคนวางแผน “ออกทริป” เดินทางท่องเที่ยวกับครอบครัว โดยเฉพาะในปีนี้รัฐบาลไม่ได้ “ติดเบรก” ห้ามเดินทาง และพื้นที่ท่องเที่ยวในบางจังหวัด ก็มีการจัดงาน “เทศกาลสงกรานต์” เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting อย่างเคร่งครัด!!

หลังจากในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมาจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในปีที่ผ่านมา “กร่อย” ไม่คึกคักเหมือนเช่นปีก่อนหน้า แต่มีการคาดการณ์ว่า สถานการณ์ในปีนี้น่าจะกลับมาคึกคัก จากคนที่เดินทางเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเป็นเทศกาลวันหยุดยาว มีการเดินทางกลับบ้านหรือท่องเที่ยว แต่อุปกรณ์ไอทีและแกดเจ็ตต่าง ๆ ก็ยังเป็นอุปกรณ์ที่ควรจะมีติดตัวระหว่างเดินทางเพราะอุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้นเยอะ!! ในช่วงเทศกาลหยุดยาวแบบนี้จะมีอุปกรณ์อะไรบ้าง?!? ไปตามอ่านกันได้เลย

1. โน้ตบุ๊ก

แม้ว่าหลายคนจะมองว่าเทศกาลวันหยุดยาว “ไม่ต้องทำงานแล้ว” แต่สำหรับใครหลาย ๆ คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบและบางอาชีพก็ต้องเตรียมพร้อม “สแตนด์บาย” ไว้เสมอ เพราะไม่รู้ว่า “ที่ทำงาน” หรือ “เจ้านาย” อาจมีงานด่วนหรือต้องการข้อมูลเอกสารสำคัญในช่วงวันหยุดแบบนี้ การมีโน้ตบุ๊กไว้ใกล้ตัวก็น่าจะอุ่นใจกว่าไม่มีหรือ เรียกว่า “มีแล้วไม่ได้ใช้” ดีกว่า “จะใช้แล้วไม่มี” โดยเฉพาะหากอยู่ระหว่างเดินทางด้วยแล้ว การจะต้องไปหาคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กระหว่างทางอาจจะไม่สะดวก

อย่างไรก็ตาม ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ พื้นที่ที่มีการจัดงานอนุญาตให้เล่นน้ำได้ แต่พื้นที่สาธารณะ ไม่มีการควบคุม เช่น ท้องถนน ฯลฯ ไม่อนุญาตให้เล่นน้ำ ยังไงก็ต้องมีการเก็บโน้ตบุ๊กให้ดีใส่กระเป๋าที่กันน้ำ หรือไม่ถือนำไปในพื้นที่ที่มีการเล่นน้ำ เพราะหากอุปกรณ์นี้โดนน้ำเข้าขึ้นมาอาจเป็นปัญหาใหญ่ต้องเสียเงินซ่อมแพง หรือต้องซื้อใหม่เลยทีเดียว!

2. สมาร์ทโฟน

กลายเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้แล้วสำหรับสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ที่เดินทางท่องเที่ยวเพื่อใช้เก็บรูปภาพและวิดีโอสวย ๆ โพสต์ลงโซเชียลอวดเพื่อนได้สะดวก และต้องใช้ติดต่อสื่อสาร หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ต้องการความช่วยเหลือจะได้สามารถติดต่อได้ทันท่วงที นอกจากนี้ยังสามารถใช้ประโยชน์อื่นได้อีกด้วย อาทิ ใช้ แอพของธนาคารและอี-วอลเล็ต เพื่อใช้จ่ายเงินหรือชำระค่าบริการ ซึ่งปัจจุบันร้านค้าต่างเปิดรับการชำระเงินแบบสแกนจ่ายเกือบทุกร้านค้า ช่วยทำให้เราไม่ต้องพกเงินสดที่อาจทำหล่นหาย หรือเปียกน้ำเวลาเที่ยวเล่นสาดน้ำด้วย

สำหรับใครที่ขับรถไฟฟ้าหรือรถอีวี ก็สามารถใช้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น เพื่อใช้ดูพื้นที่ไหนที่มีสถานีชาร์จไฟฟ้าได้อีกด้วย ช่วยให้ความสะดวกในการวางแผนขับรถอีวีเดินทางได้อย่างดี

แต่ทั้งนี้ก็ควรตรวจสอบดูว่าสมาร์ทโฟน หรือมือถือของเรากันน้ำหรือไม่ เพราะทุกวันนี้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ ที่วางขายหลากหลายรุ่นก็สามารถกันน้ำและกันฝุ่นได้ ตั้งแต่มาตรฐาน IP65 ที่เครื่องสามารถป้องกันน้ำจากการฉีดที่ตัวอุปกรณ์ได้จากทุกทิศทางและ IP66 ป้องกันน้ำจากการฉีดแบบรุนแรงที่ตัวอุปกรณ์ได้จากทุกทิศทาง

หากเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จะมีมาตรฐานที่ดีขึ้นอีก คือมาตรฐาน IP67 ที่เครื่องสามารถลงไปแช่ในน้ำลึก 1 เมตรได้นานสูงสุดถึง 30 นาทีหรือจะเป็น IP68 ที่สามารถแช่น้ำได้ลึกเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 เมตร ได้นานสูงสุด 30 นาทีเช่นกัน การตรวจสอบเพื่อที่เราจะได้รู้ว่ามือถือของเราจะสามารถกันการโดนน้ำแค่ไหน?

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ควรทำเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้วยก็คือการสำรองข้อมูลไว้ด้วย ไม่ว่าจะใช้หน่วยความจำภายนอกอย่าง Micro SD หรือจะเป็นสำรองไว้บน คลาวด์ที่เราใช้งานอยู่ เพราะหากสมาร์ทโฟนเกิดโดนน้ำจนเสียขึ้นมาจะได้ยังมีข้อมูลที่จำเป็นต้องใช้งานอยู่ ในขณะเดียวกันหากมือถือของเราไม่สามารถกันน้ำได้ก็ควรต้องเตรียมถุงกันน้ำเผื่อไว้ เพื่อจะได้ไม่ต้องมาปวดหัว หาที่ซ่อมมือถือหลังเทศกาลสงกรานต์!!

3. กล้อง Action Camera

เป็นอุปกรณ์ที่ควรมีติดตัวไว้เลยในช่วงสงกรานต์ ด้วยคุณสมบัติที่เป็นกล้องที่มีขนาดเล็ก กะทัดรัด พกพาง่าย สวนทางกับความสามารถที่เกินตัว เพราะใช้ถ่ายได้ทั้งภาพนิ่ง ภาพวิดีโอไม่ว่าการเที่ยวสงกรานต์ปีนี้ จะมีกิจกรรมโลดโผนยังไงก็สามารถใช้เก็บภาพความประทับใจได้ทุกช็อต โดยเฉพาะในบางแบรนด์ บางรุ่นสามารถ่ายวิดีโอได้คมชัดระดับ 4K และถ่ายภาพได้ 360 องศา รวมถึงภาพมุมกว้างแบบพาโนรามา นอกจากนี้กล้องยังสามารถกันน้ำ กันสั่นได้ด้วย จึงเหมาะกับการพกพาไปทำกิจกรรมในช่วงนี้ โดยเฉพาะใครที่เป็นสายผลิตคอนเทนต์ หรือเป็นยูทูบเบอร์

4. พาวเวอร์แบงก์

ถือเป็นอีกหนึ่งแกดเจ็ต ที่จำเป็นจริง ๆ ทุกคนต้องมีพกติดตัว ในยุคนี้ สำหรับ พาวเวอร์แบงก์ หรือแบตเตอรี่สำรอง เพราะจะช่วยให้เรายังสามารถใช้มือถือได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องคอยหาจุดเสียบชาร์จมือถือที่อาจไม่สะดวก หากกำลังอยู่ในช่วงเดินทาง แต่พาวเวอร์แบงก์ที่มีขายกันเกลื่อนตลาด ก็มีหลายราคาและหลายเกรด หลายความจุไฟฟ้า หากจะซื้อมาใช้งานก็ควรเลือกที่ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานต้องดูยี่ห้อ การรับประกัน การเคลม นอกจากนี้สำหรับใครที่ต้องเดินทางช่วงสงกรานต์ด้วยเครื่องบินก็ควรศึกษากฎระเบียบให้ดี โดยความจุไฟฟ้าและจำนวนที่พกพาต้องไม่เกินกำหนด ตามมาตรฐานความปลอดภัยของสมาคมขนส่งทางอากาศ ระหว่างประเทศ (IATA)

โดย พาวเวอร์แบงก์ ขนาดความจุไฟฟ้ามากกว่า 32000 mAh ไม่ได้รับอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องทุกกรณี ส่วนความจุไฟฟ้าอยู่ที่ระหว่าง 20000–32000 mAh สามารถนำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ก้อน และความจุไฟฟ้าต่ำกว่า 20000 mAh สามารถนำขึ้นเครื่องได้ไม่จำกัดจำนวน ที่สำคัญคือห้ามใส่กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลดใต้เครื่องทุกกรณี ให้พกขึ้นเครื่องเท่านั้น!!

สำหรับใครที่เดินทางโดยรถยนต์ สิ่งสำคัญที่ต้องระวังก็คืออย่าวางพาวเวอร์แบงก์ทิ้งไว้ในรถยนต์ โดยเฉพาะหากต้องจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน รวมถึงที่ที่มีความร้อนสูง เพราะมีความเสี่ยงที่พาวเวอร์แบงก์จะทนความร้อนไม่ไหว เกิดระเบิดขึ้นมา และเป็นอันตรายได้!! อาจทำให้การเดินทางกลับบ้าน หรือทริปท่องเที่ยวหมดสนุกไปเลย

5. หูฟัง

ส่วนคนที่ต้องเดินทาง แล้วติดดูหนัง ฟังเพลง แน่นอนว่าเป็นอุปกรณ์ที่ต้องมีไว้ โดยเฉพาะคนที่ต้องเดินทางโดยรถขนส่งสาธารณะ เพื่อไม่ให้เสียงไปรบกวนคนอื่น ซึ่งปัจจุบันสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ ที่ออกวางขาย ก็ไม่ได้มีการแถมหูฟังให้แล้ว จึงอาจจะต้องหาซื้อเพิ่ม ซึ่งก็มีวางขายกันหลายแบรนด์ หลายราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น ทั้งหูฟังมีสาย ไร้สาย หูฟังบลูทูธ ก็สามารถเลือกซื้อได้ตามกำลังทรัพย์เงินในกระเป๋า และลักษณะการใช้งาน

นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติกันเหงื่อ กันน้ำ กันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ ในบางรุ่น บางแบรนด์ด้วย อย่างไรก็ตาม การใช้งานหูฟังก็ไม่ควรเปิดเสียงดังเกิน 60% ของระดับเสียงสูงสุด และไม่ควรใช้งานติดต่อกันนานเกิน 1 ชั่วโมง ควรมีการหยุดพักไม่น้อยกว่า 5 นาที เพื่อไม่ให้มีผลเสียต่อสุขภาพหูของเรา

6. สมาร์ทวอทช์

เป็นอีกหนึ่งแกดเจ็ตที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับ สมาร์ทวอทช์ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ โดยเฉพาะใน “กลุ่มคนรักสุขภาพ” เพราะนอกจากจะใช้เพื่อดูเวลาแล้ว ยังสามารถใช้เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธ ในการใช้งานฟังก์ชัน การออกกำลังในรูปแบบต่าง ๆ วัดการเต้นของหัวใจ การนับก้าวเผาผลาญแคลอรี พร้อมการแจ้งเตือนหากมีข้อความ อีเมลและสายโทรฯ เข้าจึงช่วยให้เราไม่ต้องพกหรือหยิบสมาร์ทโฟนมาดูอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นอุปกรณ์ที่ควรมีติดตัวไว้ ปัจจุบันก็มีวางขายหลายแบรนด์ ราคาตั้งแต่หลักร้อยปลาย ๆ ขึ้นไปถึงหลักหมื่น ซึ่งฟีเจอร์การใช้งานก็จะมีความแตกต่างกันไป แล้วส่วนใหญ่จะมีมาตรฐานกันน้ำด้วย จึงสามารถใช้สวมใส่ เล่นสงกรานต์ได้สบาย ไม่ต้องกังวลเหมือนอุปกรณ์ไอทีอื่น

7. กล้องหน้ารถยนต์

ใครที่ต้องขับรถเองในการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์แบบนี้ แน่นอนว่าในรถควรจะมีการติดกล้องหน้ารถยนต์ไว้ เนื่องจากช่วงเทศกาลแบบนี้คนแห่กลับบ้านต่างจังหวัด รวมถึงเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้จำนวนรถบนถนนมีมากเช่นกัน รวมถึงอาจมีบางคน “รักสนุก ฉลองกันหนัก” มีการดื่มแอลกอฮอล์ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุมากยิ่งขึ้น หากมีกล้องหน้ารถติดไว้ในกรณีเกิดอุบัติเหตุขึ้น ก็จะมีหลักฐานในการพิสูจน์ว่าใครเป็นฝ่ายผิด ฝ่ายถูก

ปัจจุบันกล้องหน้ารถยนต์ มีออกมาวางขายให้เลือกมากมาย ราคาตั้งแต่หลักร้อย ไปจนถึงหลักพัน ทั้งแบบกล้องหน้าตัวเดียว และแบบกล้อง 2 ตัว ติดหน้า-หลัง การใช้งานก็ควรเลือกกล้องที่มีประสิทธิภาพให้ภาพความละเอียดสูงระดับ Full HD ขึ้นไป ซึ่งจะสามารถบันทึกป้ายทะเบียนรถได้อย่างชัดเจนและควรดูประสิทธิภาพ การใช้งานในเวลากลางคืนด้วยว่าให้ภาพชัดเจนสามารถใช้เป็นหลักฐานได้

นอกจากนี้ต้องเลือกกล้องที่มีมุมมองมากกว่า 100 องศา หากยิ่งมุมกว้างก็จะยิ่งมีประโยชน์ในการบันทึกภาพเหตุการณ์ได้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือฟังก์ชันในการใช้งาน โดยเฉพาะฟังก์ชัน G-Sensor ที่ตรวจจับแรงกระแทก เมื่อรถชนหรือถูกกระแทกก็จะทำการล็อกไฟล์เหตุการณ์อัตโนมัติ ป้องกันการถูกเขียนไฟล์ทับได้ด้วย รวมถึงฟังก์ชันการจับภาพขณะรถจอดและการจับความเคลื่อนไหวเพื่อใช้จับภาพอัตโนมัติ เมื่อมีแรงกระแทกเกิดขึ้นกับรถขณะจอด หรือมีความเคลื่อนไหวรอบรถ หากไม่อยู่ในรถก็สามารถจับภาพได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เช่น มีรถคันอื่นถอยมาชน ฯลฯ

รวมทั้งการมีจีพีเอสที่สามารถช่วยบันทึกข้อมูลตำแหน่งรถ เส้นทางการขับขี่ และความเร็วในการขับขี่ได้ด้วย ซึ่งการมีฟังก์ชันเหล่านี้ ก็ต้องแลกมากับค่าตัวกล้องที่แพงขึ้น แต่ควรหามาติด ถือคติที่ว่า “ติดไว้ก่อน อุ่นใจกว่า” เพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา!!

8. กล้องวงจรปิดไร้สาย

ปิดท้ายด้วยแกดเจ็ตที่ไม่ได้พกพา แต่ก็มีประโยชน์ในช่วงเทศกาลหยุดยาวแบบนี้ สำหรับ “กล้องวงจรปิดไร้สาย” หรือ กล้องไอพีไวไฟ ที่ควรมีติดบ้านไว้ เพราะเทศกาลสงกรานต์หลายครอบครัวออกเดินทางท่องเที่ยว ไม่มีคนอยู่ดูแลบ้าน เพราะเราสามารถใช้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน และแอพพลิเคชั่นเพื่อดูความเรียบร้อยของบ้าน ได้แบบเรียลไทม์ทุกเวลา ผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งปัจจุบันก็มีราคาไม่แพงหลักร้อยปลาย ๆ ก็สามารถซื้อมาใช้งานได้และการติดตั้งง่ายไม่ต้องเดินสายยุ่งยาก สามารถเคลื่อนย้ายไปวางตามจุดต่าง ๆ ได้ง่ายเพียงแค่ให้พื้นที่นั้น มีสัญญาณ Wifi (2.4GHz) ครอบคลุมเท่านั้น ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก สำหรับคนที่ต้องเดินทาง แต่ก็ยังมีใจห่วงบ้านอยู่

ทั้งหมดถือเป็นอุปกรณ์ไอทีและแกดเจ็ตที่ควรมีไว้ใช้งานในช่วงเดินทางกลับบ้าน หรือท่องเที่ยวต่างจังหวัด ในช่วงหยุดยาวแบบนี้ ขอให้ทุกคนเดินทางปลอดภัย สนุกกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ แต่อย่าลืมว่า “โควิด-19” ยังอยู่ เรื่องสำคัญก็คือ “การ์ดห้ามตก” เป็นอันขาด!!.

จิราวัฒน์ จารุพันธ์

Adblock test (Why?)