Apple AirTag อาศัยฐานที่ติดตั้ง iPhone ขนาดใหญ่ - www.thaifrx.com

Apple Airtag

ที่มา: Apple Inc.

ในวันอังคาร, แอปเปิ้ล ประกาศ แกดเจ็ตที่รอคอยมานานชื่อว่า AirTag ผู้ใช้สามารถแนบอุปกรณ์ขนาดเหรียญ $ 29 กับของมีค่าเช่นกุญแจหรือกระเป๋าเป้จากนั้นค้นหาบนแผนที่สดภายในซอฟต์แวร์ Find My ในตัวของ Apple

AirTag แข่งขันกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในตลาดรวมถึงจาก Tile ซึ่งที่ปรึกษาทั่วไปได้ร้องเรียนต่อสภาคองเกรสเมื่อวันพุธเกี่ยวกับการครอบงำโดยรวมของ Apple

แต่คุณลักษณะที่แตกต่างที่สำคัญที่สุดของ AirTag ไม่ใช่เทคโนโลยีภายในอุปกรณ์สแตนเลสขนาดเหรียญ 29 เหรียญ เป็นไอโฟนของคนอื่น

AirTag ไม่มีสัญญาณ GPS ซึ่งจะทำให้แบตเตอรี่หมดอย่างรวดเร็วและทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว แต่เมื่อเชื่อมต่อกับวัตถุที่สูญหายมันจะส่งสัญญาณบลูทู ธ ที่มีสัญญาณรบกวน สำหรับสัญญาณเหล่านั้นในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและแจ้งให้ผู้ที่กำลังมองหาอุปกรณ์ที่หายไปพวกเขาจะต้องหา iPhone ที่ฟังอยู่

“การใช้บลูทู ธ และอุปกรณ์ iOS, iPadOS และ macOS หลายร้อยล้านเครื่องที่ใช้งานอยู่ทั่วโลกผู้ใช้สามารถค้นหาอุปกรณ์ที่หายไปได้แม้ว่าจะไม่สามารถเชื่อมต่อกับ Wi-Fi หรือเครือข่ายเซลลูลาร์ได้ก็ตาม “Apple อธิบายใน การเปิดเผยข้อมูลด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับบริการค้นหาของฉัน. “อุปกรณ์ iOS, iPadOS หรือ macOS ใด ๆ ที่เปิดใช้” การค้นหาแบบออฟไลน์ “ในการตั้งค่าค้นหาของฉันสามารถทำหน้าที่เป็น” อุปกรณ์ค้นหา “

ผลิตภัณฑ์แสดงถึงพรมแดนใหม่สำหรับ Apple: โดยใช้ฐานการติดตั้งของ ไอโฟนกว่า 1 พันล้านเครื่อง เป็นโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสร้างบริการที่คู่แข่งทำไม่ได้ ตอนนี้ iPhone เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายทางกายภาพในโลกที่กำลังมองหาสินค้าที่ถูกขโมยแม้ว่าผู้ใช้จะไม่เคยซื้อ AirTag ก็ตาม

“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ AirTag เป็นตัวอย่างของ Apple ที่ใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศของตนเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจมากกว่าที่มีอยู่ในตลาด” Gene Munster ผู้ก่อตั้ง Loup Ventures เขียนในจดหมายข่าวเมื่อวันอังคาร “โดยเฉพาะอย่างยิ่ง AirTag จะมีคุณลักษณะการนำทางและการค้นพบที่ดีขึ้นพร้อมกับเครือข่ายอุปกรณ์อีกกว่าพันล้านเครื่องที่สามารถใช้เพื่อช่วยค้นหาสิ่งของที่สูญหายได้”

การลงทะเบียนในเครือข่าย Find My มีประโยชน์ต่อผู้ใช้ iPhone ที่ไม่ซื้อ AirTags ผู้ใช้หลายคนลงชื่อสมัครใช้เนื่องจากสามารถใช้แอปเดียวกันเพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ Apple ที่สูญหายได้และทำได้ง่ายเมื่อลงชื่อเข้าใช้บัญชี iCloud บน iPhone

เครือข่าย Find My สามารถใช้ค้นหา iPhone ได้หลังจากที่ปิดเครื่องแล้วเช่นเดียวกับที่ขโมยมักจะทำหลังจากขโมยโทรศัพท์ (หากอุปกรณ์เปิดอยู่สามารถติดต่อได้ผ่าน Find My iPhone ซึ่งเป็นบริการที่คล้ายกันซึ่งใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของอุปกรณ์และอยู่ก่อนเครือข่าย Find My)

ผู้ใช้ยังสามารถเลือกไม่ใช้เครือข่าย Find My ได้ในการตั้งค่าของ Apple แม้ว่านั่นจะหมายความว่าพวกเขาไม่ได้รับประโยชน์จากเครือข่ายเช่นการค้นหาอุปกรณ์ที่ถูกปิดหรือไม่ได้เชื่อมต่อกับเซลลูลาร์หรือบลูทู ธ (โดยไปที่การตั้งค่า> ชื่อของคุณ> ค้นหาของฉัน> ค้นหา iPhone ของฉัน> แล้วเปิดหรือปิด “ค้นหาเครือข่ายของฉัน”)

จำนวนอุปกรณ์ที่เข้าร่วมในเครือข่ายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์อย่าง AirTag

Apple อธิบายว่าบริการค้นหาของฉันเป็น “เครือข่ายที่กว้างขวางทั่วโลก” และอนุญาตให้ผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมบุคคลที่สามปล่อยผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริการนี้ได้เช่นกัน

หาก AirTag สูญหายกลางทะเลทรายโดยไม่มีอุปกรณ์ Apple อยู่ในระยะ Bluetooth จะไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อส่งสัญญาณหรืออัปเดตแผนที่ของผู้ใช้ได้ แต่ในใจกลางเมืองของอเมริกา โดยประมาณ 42% ของผู้คนมี iPhone – มากขึ้นในบางพื้นที่คุณมีแนวโน้มที่จะพบอุปกรณ์ที่กำลังมองหา AirTag ที่สูญหายของคุณมากขึ้น

Tim Cook CEO ของ Apple เคยอธิบายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ของ Apple ไว้ก่อนหน้านี้ว่า “Apple เท่านั้น“แนะนำว่าเนื่องจาก บริษัท สร้างฮาร์ดแวร์พัฒนาซอฟต์แวร์และเรียกใช้บริการออนไลน์ของตนเองจึงสามารถแนะนำคุณลักษณะที่คู่แข่งเช่น Microsoft, Googleหรือ Samsung ทำไม่ได้

ในขณะที่ Samsung หรือผู้จำหน่ายสมาร์ทโฟนรายใหญ่อื่น ๆ มีโทรศัพท์จำนวนใกล้เคียงกันในมือของผู้คน แต่พวกเขาไม่ได้ควบคุมระบบปฏิบัติการพื้นฐานทำให้คุณลักษณะต่างๆเช่น Find My ใช้งานได้ยากขึ้นในคราวเดียว

สำหรับ Apple AirTag น่าจะเป็นความพยายามในการเพิ่มคุณสมบัติที่โดดเด่นให้กับ iPhone เพื่อไม่ให้ผู้ใช้ปัจจุบันเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ Android ไม่น่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนรายได้หลัก

“แม้ว่า Airtags จะเพิ่มขึ้นตามรุ่นของเรา แต่เราไม่เชื่อว่าแม้แต่การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการคาดการณ์ของเราเนื่องจากราคาต่ำถึง 29 ดอลลาร์” Rod Hall นักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs เขียนในบันทึกเมื่อวันอังคาร

หาก Apple มีความชำนาญมากขึ้นในการใช้อุปกรณ์ที่ติดตั้งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ไวต่อความเป็นส่วนตัวอาจเป็นข้อได้เปรียบที่ทนทานสำหรับ บริษัท ฐานที่ติดตั้ง iPhone ของ Apple อาจมีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากลงทุนอย่างมากในความเป็นจริงยิ่งซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ผสานโลกทางกายภาพและโลกดิจิทัลเข้าด้วยกัน

เครือข่ายของ iPhones ที่รับรู้ตำแหน่งสามารถใช้ในแอป Augmented Reality เช่น Pokemon Go เพื่อระบุตำแหน่งที่ผู้เล่นคนอื่นแข่งขันกันและเริ่มประสบการณ์แบบกลุ่ม ให้เซ็นเซอร์และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่จำเป็นสำหรับการสร้างประสบการณ์ดิจิทัลในโลกแห่งความเป็นจริงโดยไม่ต้องสร้างอุปกรณ์ใหม่ทุกครั้ง

AirTag ยังแสดงถึงการทดสอบที่สำคัญสำหรับตำแหน่งความเป็นส่วนตัวของ Apple

ตั้งแต่ปี 2015 Apple ได้โฆษณาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยว่าเป็นตัวสร้างความแตกต่างที่สำคัญสำหรับ iPhone มีการสร้างระบบอย่างต่อเนื่องเช่นการแจ้งเตือนการเปิดเผยข้อมูลการติดตามโควิดที่กระจายอำนาจซึ่งหมายความว่าระบบเหล่านี้ได้รับการออกแบบในลักษณะที่ประมวลผลและคำนวณข้อมูลบนอุปกรณ์แทนที่จะเป็นบนเซิร์ฟเวอร์ที่ Apple สามารถเข้าถึงได้

Apple กำลังสร้างชื่อเสียงดังกล่าวเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าระบบ Find My จะไม่รั่วไหลตำแหน่งหรือข้อมูลของผู้ใช้เมื่อทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์ค้นหา Apple กล่าวว่าเครือข่าย Find My จะเก็บข้อมูลตำแหน่งไว้เป็นส่วนตัวและไม่ระบุตัวตนและไม่ได้จัดเก็บข้อมูลตำแหน่งหรือประวัติ

วิธีที่ Apple ดึงมันออกมานั้นเป็นเรื่องของวิศวกรรมซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อน “Find My สร้างขึ้นจากพื้นฐานของการเข้ารหัสคีย์สาธารณะขั้นสูง” ของ Apple การเปิดเผยความปลอดภัยกล่าว.

ตอนนี้ผู้ใช้ของ Apple จะต้องตัดสินใจว่าพวกเขาเข้าใจและเชื่อถือเครือข่าย Find My และ Apple หรือไม่ทั้งในฐานะผู้ใช้และในฐานะผู้ใช้ iPhone ที่เข้าร่วมเพื่อให้พวกเขาทำงานได้ดีขึ้น

Let's block ads! (Why?)