“ออสการ์” ครั้งที่ 93 ฝ่ากระแสโควิด เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ “โคลอี้ จ้าว” หญิงชาวเอเชียคนแรก ที่คว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม จากหนัง “โนแมดแลนด์” (Nomadland) ขณะที่ รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและนักแสดงนำหญิง ยอดเยี่ยมประจำปีนี้ยังเป็นของหนังเรื่องเดียวกัน ส่วนรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมเป็นของรุ่นเก๋า “เซอร์แอนโธนี ฮอปกินส์” ด้าน “ยูน ยอ จอง” ดาราอาวุโสวัย 73 ปี สร้างประวัติศาสตร์นักแสดง เกาหลีคนแรกที่คว้านักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากเรื่อง “มินาริ” (Minari)
“โคลอี้ จ้าว” สร้างประวัติศาสตร์ เป็นผู้กำกับหญิงชาวเอเชียคนแรกที่คว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม จากการประกาศรางวัล “ออสการ์” หรืออะคาเดมี อวอร์ดส์ ครั้งที่ 93 ซึ่งถือเป็นรางวัลเกียรติยศสูงสุดในวงการภาพยนตร์ โดยเมื่อคืนวันที่ 25 เม.ย. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ หรือวันที่ 26 เม.ย. ตามเวลาประเทศไทย ที่โรงละครดอลบี เธียเตอร์ ในย่านฮอลลีวูด นครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย และเป็นการจัดงานแบบสวนกระแสสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กำหนดให้ผู้ชิงรางวัลต้องมาปรากฏตัวในงานไม่มีการใช้แอปพลิเคชันออนไลน์ เหมือนงานประกาศรางวัลลูกโลกทองคำที่จัดขึ้นก่อนหน้านี้
ข่าวแนะนำ
นอกจากนี้ งานออสการ์ยังจัดช้ากว่ากำหนดการเดิมถึง 2 เดือน ยังจัดขึ้นแบบไม่มีผู้ชม ไม่มีพิธีกรอย่างเป็นทางการติดต่อกันเป็นปีที่ 3 โดยมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 170 คน จากมาตรฐานปกติกว่า 3,000 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ได้รับเสนอชื่อและดาราระดับเอ-ลิสต์เท่านั้น พร้อมมีระเบียบห้ามพาคู่ควงมาร่วมงาน ไม่มีการบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยระหว่างถ่ายทอดแต่ต้องใส่เมื่ออยู่ในช่วงพักโฆษณา
สำหรับภาพยนตร์ที่คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม รางวัลใหญ่ของปีนี้ ได้แก่ “โนแมดแลนด์” (Nomadland) เรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของหญิงพเนจร ขณะเดียวกันคว้าไปอีก 2 สาขา คือนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากการถ่ายทอดบทบาทออกมาได้อย่างเหนือชั้นของ “ฟรานเซส แม็คดอร์มานด์” ดาราชาวอเมริกันวัย 63 ปี และรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม “โคลอี้ จ้าว” ผู้กำกับหญิง ชาวอเมริกันเชื้อสายจีน กลายเป็นผู้กำกับหญิงเอเชียคนแรกที่ได้รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม ทั้งเป็นผู้หญิงคนที่ 2 ที่คว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมของออสการ์ ต่อจากแคทลีน บิเกโลว์ ผู้กำกับเรื่องเดอะ เฮิร์ต ล็อคเกอร์ เมื่อ 11 ปีก่อน รวมแล้ว “โนแมดแลนด์” คว้าไป 3 สาขา จากการเข้าชิงทั้งหมด 6 สาขา
ขณะที่สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมถือว่าพลิกโผ รางวัลตกเป็นของ “เซอร์ แอนโธนี ฮอปกินส์” วัย 83 ปี จากบทบาทชายชราความจำเสื่อม ในเรื่อง “เดอะ ฟาเธอร์” (The Father) ผิดจากที่บรรดานักวิจารณ์คาดการณ์ไว้ว่า รางวัลจะตกเป็นของนักแสดงผู้ล่วงลับ “แชดวิก โบสแมน” จากเรื่อง “มา เรนีส์ แบล๊ค บอตทอม” (Ma Rainey’s Black Bottom) ที่คว้ารางวัลไปแล้วหลายเวทีไม่ว่าลูกโลกทองคำ หรือแซค อวอร์ดส์ อย่างไรก็ตาม วาคีน ฟีนิกซ์ ดาราชื่อดัง เป็นผู้รับรางวัลให้แทน เนื่องจาก “เซอร์ แอนโธนี” ปฏิเสธเดินทางมาร่วมงาน
นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ตกเป็นของ “แดเนียล คาลูยา” ดาราผิวสีแดนอังกฤษ จากเรื่อง “จูดาส แอนด์ เดอะ แบล๊ค แมสไซอาห์” (Judas and the Black Messiah) ส่วนนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ได้แก่ “ยูน ยอ จอง” ดาราอาวุโสวัย 73 ปี คว้ารางวัลจากเรื่อง “มินาริ” (Minari) สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแสดงชาวเกาหลีคนแรกที่คว้ารางวัลออสการ์อันทรงเกียรติ ผลการประกาศรางวัลทั้งหมดนี้ทำให้ออสการ์ได้รับเสียงวิจารณ์เชิงบวกว่า มีความหลากหลายทางเพศและเชื้อชาติมากขึ้น ผิดกับปีก่อนๆที่รางวัลจะเป็นของนักแสดงผิวขาว
อ่านเพิ่มเติม...
อ่านบทความและอื่น ๆ ( "โนแมดแลนด์" คว้าหนังออสการ์ "โคลอี้ จ้าว-ยูน ยอ จอง" 2 หญิงจากเอเชียผงาด - ไทยรัฐ )https://ift.tt/3vfoGrg
บันเทิง
Bagikan Berita Ini
0 Response to ""โนแมดแลนด์" คว้าหนังออสการ์ "โคลอี้ จ้าว-ยูน ยอ จอง" 2 หญิงจากเอเชียผงาด - ไทยรัฐ"
Post a Comment