ธนาคารกีฬาสัญจร จิตอาสาพัฒนากีฬาชาติ

ที่มา	คอลัมน์ "รายงาน"

ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่เด็กและเยาวชน ตื่นตัวกับการเข้าร่วมกิจกรรมกีฬามากในระดับต้นๆ ของประเทศที่พัฒนาแล้ว ประกอบกับภาครัฐ และเอกชน ต่างเข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริม และสนับสนุนในหลากหลายมิติ ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่าสังคมไทยยังมีความเหลื่อมล้ำสำหรับโอกาสการเข้าถึงกิจกรรมของเด็กและเยาวชนอยู่อีกจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ห่างไกล หรือชายขอบของประเทศ รวมทั้ง ผู้ที่ด้อยโอกาสทั้งหลาย

ด้วยความสำคัญของการส่งเสริม และสนับสนุน สำหรับการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เติบโตเป็นทุนมนุษย์ที่สำคัญของประเทศในอนาคต ศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ในฐานะเป็นหน่วยงานบริการวิชาการแก่สังคม จึงจัด โครงการธนาคารกีฬา เพื่อสร้างรากฐานการกีฬาให้เด็กและเยาวชน สามารถมีทักษะ นวัตกรรม และประสบการณ์ ในการต่อยอดไปสู่ระดับชาติ และอาชีพในอนาคต

ดร.วัลลภ สุวรรณดี อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต กล่าวว่า มหาวิทยาลัยตระหนัก และให้ความสำคัญในการส่งเสริม และสนับสนุนการกีฬามาอย่างต่อเนื่อง โครงการธนาคารกีฬาเป็นหนึ่งในมิติที่มหาวิทยาลัยสนับสนุน และตอบโจทย์สำหรับการพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยใช้กิจกรรมกีฬาเป็นสื่อ

ขณะที่ ดร.เสนีย์ สุวรรณดี รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา แจกแจงว่าล่าสุดมหาวิทยาลัยได้จัด “โครงการธนาคารกีฬาสัญจร” (KBU Sport Bank football Clinic On Tour) ด้วยการเปิดคลินิกกีฬา เพื่อฝึกทักษะกีฬาฟุตบอลให้กับเด็กและเยาวชนทั่วไป ภายใต้การสนับสนุนของการกีฬาแห่งประเทศไทย องค์กรภาครัฐ และเอกชน และองค์กรสื่อทางการกีฬา เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติประจำปี 2563 พบว่าผู้ปกครองทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ได้นำบุตรหลานเข้าร่วมจำนวนมาก ถือเป็นการเสริมเติมฝันเพื่อต่อยอดไปสู่การเป็นนักเตะคุณภาพแห่งอนาคต

ด้าน ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ ระบุว่า การจัดกิจกรรมคลินิกกีฬาฯ เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ศูนย์นวัตกรรมฯ ได้ดำเนินการ เพื่อส่งเสริม และสนับสนุนกิจกรรมกีฬาให้กับเด็กและเยาวชน เพื่อตอบโจทย์ และเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลตลอดจนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ว่าด้วยการพัฒนาทุนมนุษย์ การจัดครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากกูรูกีฬาฟุตบอล หรือโค้ชระดับชาติหลายท่านมาร่วมถ่ายทอดความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ให้กับเด็กๆ

“เพื่อให้เด็กและเยาวชนที่ห่างไกล รวมทั้ง ผู้ที่ด้อยโอกาส ได้เข้าถึงกิจกรรมให้มากที่สุด และในปี 2564 เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ลดลง สามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้ โครงการธนาคารกีฬาจะร่วมมือกับการกีฬาแห่งประเทศไทย รวมทั้ง ภาครัฐ และเอกชน เพื่อสัญจรไปในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ ภายใต้แนวคิด “จิตอาสาพัฒนากีฬาชาติ” จัดกิจกรรมมอบอุปกรณ์กีฬา และเปิดคลินิกในชนิดกีฬาที่เป็นความต้องการของเด็กในชุมชน และสถานศึกษาต่างๆ ต่อไป” ผศ.ดร.รัฐพงศ์ กล่าว

ขณะที่ โค้ชหนึ่ง ดร.หนึ่งฤทัย สระทองเวียน อาจารย์โรงเรียนกีฬาขอนแก่น อดีตโค้ชฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ที่เคยสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการนำนักกีฬาทีมชาติเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกมาแล้ว 2 สมัย และเป็นหนึ่งในคณะวิทยากรตามโครงการ กล่าวว่า วันนี้กีฬาสามารถต่อยอดให้เด็กๆ และเยาวชนที่มีความสามารถ ก้าวไปสู่การเป็นนักกีฬาระดับชาติ และนักกีฬาอาชีพได้ ดังนั้น อยากให้เด็กและเยาวชน รวมทั้ง ผู้ปกครอง เข้าร่วมโครงการกันมากๆ ที่สำคัญตนมีความสุขทุกครั้งที่ได้มีส่วนร่วมในการถ่ายทอดรูปแบบการเล่นกีฬาที่ถูกต้องให้กับทรัพยากรของชาติ

“น้องข้าวหอม” ด.ญ.วริศรา พันธุ์สวัสดิ์ อายุ 8 ปี นักเรียนโรงเรียนราชินีบน ทายาทของอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย หนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการ เปิดใจว่า หลังได้ร่วมฝึกกีฬาฟุตบอลกับพี่ๆ รู้สึกว่าตนเองมีทักษะ และประสบการณ์เพิ่มขึ้น ดีใจมากที่ได้พบกับโค้ชระดับชาติ จากนี้ไปจะพยายามฝึกการเล่นฟุตบอลให้มากๆ เพราะโตขึ้นหนูอยากเป็นนักฟุตบอลทีมชาติเหมือนกับคุณพ่อ

ปิดท้ายที่ น.ส.วีรวรรณ ทองแพ ผู้ปกครองนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่า จากที่ได้นำลูกสาว ปัจจุบันเป็นนักเรียนโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ฯสมุทรสาคร ในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จ.สมุทรสาคร เข้าร่วมโครงการ เพราะลูกสาวสนใจจะเป็นนักฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย จากการพูดคุยกับผู้ปกครอง และเด็กๆ ที่เข้าร่วมโครงการ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าโครงการธนาคารกีฬาสัญจร เป็นโครงการที่ดี ที่เด็กๆ จะได้สัมผัสกับโค้ชระดับชาติแบบใกล้ชิด ได้รับการถ่ายทอดความรู้ เทคนิค ตลอดจนแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในสนาม ถึงแม้ว่าจะมีเวลาช่วงสั้นๆ แต่ก็ทำให้เด็กตื่นเต้น มีความสุข และพร้อมที่จะฝึกฝนตนเองให้ก้าวไปในระดับประเทศ และระดับโลก

กีฬาจึงเป็นหนึ่งในมิติของกิจกรรมสำหรับการพัฒนาเด็กและเยาวชน ให้เป็นผู้ที่มีความพร้อม และก้าวทันในยุคของการเปลี่ยนแปลง และการแข่งขันของโลก