หากกล่าวถึง "เนตร" ทิพย์รัตน์ แก้วใส หรือ "หมอเนตร" เชื่อว่าแฟนวอลเลย์บอลหลายๆคน คงคุ้นหน้าคุ้นตากันดีอยู่ไม่น้อย
ปฏิเสธไม่ได้ว่า "หมอเนตร" คืออีกบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังชัยชนะ ที่เกิดขึ้นของทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยในเวทีระดับภูมิภาค ทวีป เเละระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตำเเหน่งของเธอสำคัญ ไม่เเพ้กับงานของผู้ฝึกสอน ซึ่งมีหน้าที่ควบคุม ฝึก พัฒนานักกีฬา เเละกำหนดเทคติคเเละทิศทางการเล่นของทีมเลย
งานในด้านกายภาพ นับว่าสำคัญไม่เเพ้กัน หน้าที่คือการดูเเล รักษา เเละฟื้นฟู สมรรถภาพ รวมถึงความฟิตของเหล่าผู้เล่น ซึ่งถือเป็นอีกเป็นปัจจัยที่จะส่งให้ผู้เล่นหรือทีมนั้นๆ ลงไปทำหน้าที่ได้อย่างสัมฤทธิ์ผล เเละมีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อโอกาสประสบความสำเร็จ
"หมอเนตร" เปิดใจกับเราว่า เธอเรียนภาควิชากายภาพบำบัด คณะสหเวชศาสตร์ ที่ธรรมศาสตร์ ด้วยความที่ชอบและสนใจวิชากายภาพบำบัดทางกีฬาอยู่เเล้ว ก็ทำให้ตัดสินใจเลือกเรียนเเละทำวิจัยเกี่ยวกับนักกีฬาบาสเกตหญิงของ มธ. ซึ่งก็กลายเป็นจุดที่ทำให้เธอต้องเข้าไปช่วยดูแลนักบาสฯของสถาบันทั้งปีการศึกษา ร่วมกับอาจารย์หลายๆท่านในรายวิชานี้
เมื่อจบมาอาจารย์และรุ่นพี่เเนะนำให้มาสมัครงานที่แผนกกายภาพบำบัดการกีฬาแห่งประเทศไทย เเละได้มีโอกาสทำงานส่วนกลางของการกีฬาแห่งประเทศไทยในเวลาต่อมา
จุดเริ่มในวันนั้นทำให้ "หมอเนตร" มีโอกาสได้ไปช่วยงานทีมกีฬาของสมาคมกีฬาต่างๆมากมาย อาทิเช่น บาสเกตบอล, เทนนิส, ว่ายน้ำ รวมถึง ฟันดาบ
"ช่วงปี 2012 ปีของกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ที่ลอนดอน ทางอาจารย์อ็อด และสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลฯ ได้เข้ามาคุยกับหัวหน้างานกายภาพบำบัด เพื่อขอเปลี่ยนนักกายภาพบำบัดให้ทีมหญิง ซึ่งหัวหน้างานขณะนั้น คุณนำชัย รัตนพงษ์บัณฑิต เล็งเห็นเราน่าจะทำได้ดี ก็เลยเปิดทางเเละมอบโอกาสให้เข้ามาช่วยงาน เเละทำหน้าที่เป็นนักกายภาพประจำทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย เป็นต้นมาค่ะ"
เจ้าตัว เปิดใจอีกว่า กายภาพบำบัดกับในงานกีฬาถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเเละละเลย ยิ่งในนักกีฬาอาชีพหรือทีมชาติ การเเข่งขัน เป็นไปอย่างเข้มข้น เดิมพันสูง เเน่นอนว่าทีมหรือนักกีฬาก็มักจะอยากหาย อยากแข็งแรงขึ้น เพื่อจะได้กลับไปลงเล่นลงแข่งเร็วๆ ซึ่งวิถีการฟื้นฟูเเละทำกายภาพบำบัด ก็จะเป็นตัวช่วยในทางนี้
คุณหมอคนเก่ง ยังเผยอีกว่า นอกจากหน้าที่ในการดูเเลร่างกายเเละความฟิตของผู้เล่นในทีมวอลเลย์บอลไทยเเล้ว เธอยังมีหน้าที่เป็นตัวกลาง ที่คอยประสาน ให้ความเชื่อมั่น ร้างกำลังใจให้ทีม เเละผู้เล่นด้วย
เธอยังกล่าวกับเราอีกว่า รู้สึกดีที่สุดคือการที่เธอได้เห็นนักกีฬาตัวลงเล่นได้อย่างมั่นใจและมีความสุข ไม่มีความกังวลจากอาการบาดเจ็บ ที่สำคัญจะยินดีมากๆ หากน้องๆนำความรู้จากเราไปประยุกต์ใช้ต่อเพื่อดูแลตัวเอง
"ขึ้นชื่อว่าเป็นนักกีฬา ก็ต้องมีวินัยในการดูแลตัวเองค่ะ เพราะสิ่งเหล่านี้จะนำพาให้เขาประสบความสำเร็จในอาชีพนักกีฬาและการเป็นตัวแทนทีมชาติไทย รวมไปถึงเป็นต้นแบบและเป็นแรงบันดาลใจต่อนักกีฬารุ่นหลังด้วย"
คุณหมอเนตร ยังเผยอีกว่า เกือบ 10 ปีที่เธอได้เข้ามาทำงานเเละเป็นส่วนหนึ่งของทีมลูกยางไทย เธอประทับใจเหล่านักกีฬารุ่น 7 เซียนมากๆ โดยชี้ว่า เพราะยุคนั้นเป็นยุคของการบุกเบิก รวมถึงต่อยอดให้ทีมไทยไประดับโลก
คุณหมอเนตร ยังกล่าวอีกว่า การทำกายภาพบำบัดถ้าผู้รักษาและนักกีฬาไม่เปิดใจ ไม่เชื่อใจกัน ผลการรักษาก็อาจไม่ดี ที่สำคัญโลกในวันนี้ วิทยาการก้าวหน้าเปลี่ยนไปเรื่อย ไม่ใช่เพียงเเค่นักกีฬาที่พัฒนา เเต่สำหรับตนเองนั้นก็ต้องพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆให้หลากหลายอยู่เสมอด้วย
"การเป็นนักกายภาพบำบัดทีมวอลเลย์บอลหญิงรู้สึกเหมือนได้ครอบครัวใหญ่เพิ่มขึ้นมา เป็นเหมือนคนครอบครัวเดียวกัน วันที่ดีใจ วันที่ร้องไห้ วันที่ป่วย เราประคับประคองกันมา เเละวอลเลย์บอลทีมหญิง ได้ให้ความทรงจำที่ดีต่อเรา ซึ่งมันเป็นแรงบันดาลใจและเป็นแรงผลักดันของเราค่ะ" คุณหมอคนเก่ง กล่าวปิดท้าย
อ่านบทความและอื่น ๆ ( ขาดเธอไม่ได้! "เนตร-ทิพย์รัตน์" หมอกายภาพคนเก่งเปิดใจกับ10ปีกับลูกยางไทย - สยามกีฬา )https://ift.tt/2Z44MRU
กีฬา
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ขาดเธอไม่ได้! "เนตร-ทิพย์รัตน์" หมอกายภาพคนเก่งเปิดใจกับ10ปีกับลูกยางไทย - สยามกีฬา"
Post a Comment